Line Pay

การค้าที่ได้เปลี่ยนทิศทางของการทำธุรกิจไปจากร้านค้าธรรมดา ให้มาอยู่ในโลกออนไลน์ ซึ่งทำให้วงการธุรกิจต่างก็ต้องการช่องทางชำระเงินที่เป็นระบบที่รวดเร็ว ที่สามารถตอบสนองให้ลูกค้าได้รับความสะดวกให้มากที่สุด ทำให้เกิดการพัฒนาแอปต่างๆ และหนี่งในนั้น ก็คือแอปพคิเคชั่น line หลังจากทดสอบเปิดให้บริการในประเทศไทยและได้รับความนิยมไปทั่วโลกก็ได้เสริมให้มีขีดความสามารถที่ทำให้เปิดตัวบริการชำระเงินออนไลน์เรียกว่า LINE Pay ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเป็นบริการชำระเงินออนไลน์ ที่ทำได้ทั้งระหว่างบุคคล และระหว่างร้านค้า เปิดตัวมาพร้อมกับ LIFE Platform เมื่อช่วงปลายปี 2014 เพื่อเป็น หนึ่งในเครื่องมือในตลาดธุรกิจออนไลน์ก็มีผู้สมัครเข้าใช้งานมากกว่า 1 ล้านร้านค้า และ มีร้านค้าออนไลน์ที่มี ชื่อดัง ทั้งหลายได้นำไปใช้เป็นช่องทาง สำหรับจ่ายเงินจำนวนมาก ผ่าน LINE Pay ซึ่งมีสองรูปแบบ คือฝั่งผู้ใช้ที่ผูกบัตรเดบิต-เครดิตเข้ากับบัญชี เพื่อจ่าย และ ฝั่งร้านค้าที่เป็น เกต์เวย์ สำหรับชำระเงิน ซึ่งตอนนี้ฝั่งร้านค้า จะสามารถใช้งาน ได้ดีและ ทาง LINE เพิ่งไปร่วมมือกับทาง กลุ่มเซ็นทรัล และ Ensogo รวม ถึงมีใช้แบบ ออฟไลน์ กับ ซีเอ็ด ด้วยการจ่ายเงินผ่าน QR Code และเพิ่งจับมือกับธนาคารกรุงศรีฯ อีกด้วยทำให้ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทยเรา

LINE Pay กับ Rabbit LINE Pay คือตัวเดียวกันมั้ย?

-แอปพลิเคชั่น LINE เริ่มแรกนั้นได้นำระบบ e-Wallet เข้ามาใส่เป็นส่วนหนึ่งที่ได้สร้างสามารถพิเศษของ LINE ทำให้ตัวแอปพลิเคชั่น ใช้จ่ายซื้อขายสินค้าได้เลย ใช้ได้ตามร้านค้าที่ร่วมกับทางแอป LINE เท่านั้น ซึ่งในช่วงแรกเริ่ม
-Rabbit LINE Pay แรบบิทไลน์เพย์  เป็นระบบกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ e-Wallet จากแอปพลิเคชั่น LINE ซึ่งจากเดิมนั้นก็เปิดให้บริการในชื่อ LINE Pay ซึ่งสามารถใช้ได้กับร้านค้าที่ร่วมรายการ กับทางแอปพลิเคชั่น LINE เท่านั้น ต่อมาทาง LINE Thailand ได้ร่วมพัฒนา ระบบและทำการเปลี่ยน ชื่อเป็น Rabbit LINE Pay ที่ได้เน้นช่วยอำนวยความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลามากขึ้น กว่าเดิม ใช้บริการรถไฟฟ้า BTS และสามารถซื้อตั๋วผ่านบนแอปพลิเคชั่น LINE ได้ พร้อมกับสามารถ ชำระค่าสินค้ากับร้านค้าที่ร่วมรายการได้ตามปกติอีกทางหนึ่ง

ลงทะเบียนบัญชีใหม่

จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ซึ่งสามารถลงทะเบียน Rabbit LINE Pay ได้แล้วนั้น และหลังจากผ่านการยืนยันตัวตนแล้ว สมาชิกก็จะสามารถเติมเงินเข้าไปได้ตามต้องการและมียอดคงเหลือ หรือ จะผูกกับบัตรเดบิต เพื่อให้ใช้งานผ่าน Rabbit LINE Pay ก็จะได้รับความสะดวกมากยิ่ง
ขึ้น เพราะการยืนยันตัวตนของสมาชิกนั้นได้ผูกเข้ากับบัญชี Rabbit LINE Pay อีกด้วย

การยืนยันตัวตน โดยใช้บัตรประจำตัวประชาชนได้ด้วย

ขั้นตอนที่ 1 ใส่ข้อมูลส่วนตัว
ขั้นตอนที่ 2 ใส่หมายเลข เลเซอร์ ที่อยู่ด้านหลังบัตรประจำตัวประชาชน
ขั้นตอนที่ 3 ลงทะเบียน และ ยืนยันตัวตน เสร็จสมบูรณ์พร้อมๆกัน

ยืนยันใบหน้า และบัตรประจำตัวประชาชน

ถ่ายรูปบัตรประจำตัวประชาชนและใบหน้าคุณเพื่อยืนยันตัวตนของคุณ
ขั้นตอนที่ 1ใส่ข้อมูลส่วนตัว
ขั้นตอนที่ 2 เลือกอีกวิธี
ขั้นตอนที่ 3 อัพโหลดรูปบัตรประจำตัวประชาชน และ รูปที่สมาชิก กำลังถือบัตรประจำตัวประชาชน
ขั้นตอนที่ 4 ตรวจสอบว่า สมาชิก ได้รับการลงทะเบียน ตามขั้นตอนว่า ได้การยืนยันตัวตนแล้วหรือไม่

เติมเงินอย่างไร 

ช่องทางที่ 1. บัญชีธนาคารจากธนาคารพันธมิตรของ Rabbit LINE Pay เช่น กรุงไทย ทีเอ็มบี และกรุงศรีอยุธยาไทยพาณิชย์ กสิกรไทย กรุงเทพ
ช่องทางที่ 2. ออนไลน์ ผ่านระบบของธนาคาร เช่น Mobile Banking,Internet Banking,หรือ ตู้ ATM
ช่องทางที่ 3. หน้าร้านค้า ได้ที่หน้าร้านค้าที่ร่วมรายการ เช่น McDonald,Kerry Express,BTSทุกสถานี, ศูนย์บริการ AIS,แฟมิลี่มาร์ท,
เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และท็อปส์, เซ็นทรัล, โรบินสัน เป็นต้น
ช่องทางที่ 4. ตู้เติมเงิน หน้าตู้บุญเติม, ตู้ AIS Payment,ตู้เติมสบายพลัส  และตู้เอไอเอส
ช่องทางที่ 5. เดิมเงินอัตโนมัติ ต้องลงทะเบียนบัญชีเงินฝากในระบบ เมื่อยอดเงินน้อยกว่ายอดต่ำสุด จะมีการโอนเงินจากบัญชีที่โดยอัตโนมัติ
บัญชีของธนาคาร  กรุงเทพ, กสิกรไทย หรือกรุงศรีอยุธยา ไทยพาณิชย์, ทีเอ็มบี, กรุงไทย,ที่ได้เลือกไว้

คุณสมบัติเด่นของ Rabbit LINE Pay

- ใช้งานได้ดี ทั้งหน้าร้านและบนออนไลน์ ใช้ชำระค่าสินค้า และบริการได้
- มอบโปรโมชั่นสุดพิเศษ สำหรับสมาขิกที่ได้ใช้จ่าย ผ่าน Rabbit LINE Pay เช่น รับเครดิตเงินคืน Cash Back พร้อมส่วนลดต่างๆ อีกมากมาย หลายรายการ
- บัตร Rabbit LINE Pay สามารถเบิกเงินสดจากบัตรได้ด้วย
เป็นการเพิ่มความสะดวกให้กับเหล่าเพื่อนๆสมาชิกทั้่งหลาย โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการจับจ่ายซื้อของที่ต้องมีการซื้อขายกันทุกนาทีในแต่ละวันที่หลีกไม่พันการทำธุรกรรมทางการเงิน ก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเราไปแล้ว ใช้บริการต่างๆได้มาก รวมทั้ง ร้านค้า จำนวนมาก
-ใช้รูดขึ้นรถไฟฟ้า BTS ทุกสถานี แต่ MRT และ Airport Railink ยังใช้ไม่ได้ และร้านสะดวกซื้อต่างๆ เช่น Family Mart,Lawson 108    -บริจาคเงินเข้ามูลนิธิต่างๆ เช่น  เทใจดอทคอม สภากาชาดไทย มูลนิธิรามาธิบดี
-ศูนย์อาหารตามห้างสรรพสินค้าบางแห่ง เช่น MBK,Amarin Plaza
-เติมเงินโทรศัพท์มือถือ AIS One-2-Call และ DTAC Prepaid
-จ่ายค่าค่าไฟฟ้า น้ำประปา ค่าโทรศัพท์ TOT และ ทางด่วน Easy Pass
-เติมเงินเกม ซื้อแอปฯ ผ่าน Google Play, App Store
-จ่ายเงินค่าสินเชื่อรถ เช่น Nissan Leasing, Toyota Leasing
-จ่ายค่าบัตรเครดิต และสินเชื่อเงินสด เช่น Citibank, KTC
-ซื้อตั๋วภาพยนต์ในเครือ Major และ SF
-ชำระค่าเบี้ยประกัน เช่น AIA, Muang Thai Life
-จ่ายชำระค่าสินค้า  Misteen