บทวิเคราะห์ก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอล ยูโร2020
นัดชิงฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร2020 จะแตะกันในเช้าวันที่ 12 มิถุนายน 2020 เวลา 02:00 น. ตามเวลาไทย ที่สนามเวมบลีย์ ประเทศ อังกฤษ มาเทียบขุมกำลัง สภาพความพร้อมของทีม แผนการเล่น และบทวิเคราะห์เกม รวมถึงสถิติกันก่อน
ทีมชาติ อังกฤษ นี่คือครั้งแรกที่ทีมสิงโตคำรามสามารถทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ของการแข่งขันฟุตบอลรายการนี้ได้ตั้งแต่มีการจัดแข่งขันมา และครั้งนี้จะเป็นการลบรอยแผลขอลกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่ในอดีตเมื่อ 25 ปีที่แล้ว เขาเหมือนเป็นแพะรับบาปของทีมในศึกยูโร 1996 ที่เขายิงจุดโทษพลาดนัดที่แข่งกับทีมเยอรมันและเส้นทางของอังกฤษก็หยุดในรอบตัดเชือก แต่ปีนี้เขามาฐานะผู้จัดการทีมที่เสียเพียงประตูเดียว และกำลังจะมีโอกาสพาอังกฤษคว้าแชมป์
แทงบอลยูโร2020กับสปอร์ตบุ๊คออนไลน์ที่ดีที่
เช็กขุมกำลัง ฝั่งสิงโตคำราม ต้องบอกเลยว่านี่คือข้อดีอย่างนึง ที่ เซาธ์เกต ได้วางรากฐานเอาใว้ด้วยเรียกเด็กหนุ่มหน้าใหม่เข้ามาติดทีมและเล่นด้วยกันมาตั้งแต่ปี 2016 จนตอนนี้มันออกดอกออกผล 11 ตัวจริงที่จะลงบู๊ในนัดชิงตัวหลักอยู่ครบไม่มีตัวเจ็บ
เฮดโค้ช แกเร็ธ เซาธ์เกต (ผู้รักษประตู จอร์แดน พิกฟอร์ด | กองหลัง ไคล์ วอล์คเกอร์ , แฮรี่ แม็คไกว , จอนห์ สโตนส์ , ลุค ชอว์ | กองกลาง ราฮีม สเตอร์ลิง , คัลวิน ฟิลลิปส์ , ดีคลัน ไรซ์ , เมสัน เมานท์ , บูกาโย ซากา | กองหน้าตัวเป้า แฮร์รี่ เคน)
นี่คือทีมเด็กหนุ่มที่รวดเร็วแข็งแกร่งวิ่งได้ไม่มีหมด ทุกตำแหน่งเป็นตัวแทนกันได้หมดแผน 4-2-3-1 ทำให้อังกฤษชุนี้ลงตัวบุกได้จากทุกทิศทาง ทิ้งแฮร์รี่ เคน ที่สามารถเก็บบอล ทำประตูก็ได้ ดีงรอเพื่อนก็ได้ แผงหลังชุดนี้ก็ถึงว่าแน่นมาก วิงแบ็ตสองฝั่งคอยเติมเป็นระยะจะด้วยกว่าอิตาลีก็ตรง ประสบการณ์ที่ชุดนี้เพิ่งเคยเข้าชิงครั้งแรกและรายการใหญ่ระดับแมเจอร์ ทีมชาติอังกฤษก็เคยเข้ารอบลึกมากว่า 25 ปีแล้ว
เส้นทางทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลยูโร 2020 นี้
รอบคัดเลือก อังกฤษ อยู่ในกลุ่ม D ชนะโครเอเชีย 1-0 เสมอสก็อตแลนด 0-0 ชนะสาธารณรัฐเช็ก 0-1 เข้าเป็นที่ 1 ของสายมี 7 แต้มได้สองไม่เสียประตูเลย
รอบ 16 ทีมอังกฤษ เอาชนะทีม เยอรมัน 2-0 | รอบ 8 ทีมเอาชนะ ยูเครน 0-4 | รอบรองชนะเลิศชนะ เดนมาร์ก 2-1
เท่ากับว่าอังกฤษยิงไปแล้ว 10 ตูเสียเพียงประตูเดียวเท่านั้น
ทำให้แฮร์รี่ เคน ยิงไปแล้ว 4 ประตูเป็นดาวซัลโวสูงสุดอันดับ 3 ในรายการนี้รองเพียง คริสเตียน โน่โรนัลโด้ จากโปรตุเกส และ ปาทริค ชิด จากสาธารณรัฐเช็ก
และราฮีม เสอตร์ลิง +3 ประตู | แฮรี่ แม็คไกว +1 ประตู | จอร์แดน แฮนเดอร์สัน +1 ประตู
ทีมชาติ อิตาลี ชุดนี้พัฒนาขึ้นมากในยุคของโรแบร์โต้ มันชินี่ ในยุคที่ขุนพลอัซซูรี่ หันมาเล่นเกมบุกได้เร้าใจและไม่ได้เล่นแต่รับเหนียวแน่นเพียงอย่างเดียว แต่กลับมาเล่นเกมรุกได้อย่างเร้าใจนี่จะเป็นการเข้าชิงหลังจาก ที่เคยคว้าแชมป์ไปครองแล้ว 1 สมัย เมื่อปี 1968 ซึ่งผ่านมากว่า 52 ปีที่ขุนผลอัซซูรี่ไม่ได้สัมผัสแชมป์ยุโรป
เช็กขุมกำลัง ฝั่งขุนผลอัซซูรี่ มีอาวุธที่ครบครันกับสามประสานแดนหน้าเครื่องจักสังหารประตู วิงแบ็คริมเส้นที่พร้อมขึ้นลงอย่างรวดเร็วคอยเติมเกมบุกตลอด สามประสานแดนกลางที่คอยตัดเกมและจะบอลได้ทั้งยาวทั้งสั้นอย่างแม่นยำ กองหลังที่แหนียวนแน่น 11 ตัวจริงที่จะลงบู๊ในนัดชิงตัวหลักอยู่ครบไม่มีตัวเจ็บ
เฮดโค้ช โรแบร์โต้ มันชินี่ (ผู้รักษประตู จันลุยจิ ดอนมารุมน่า | กองหลัง จอร์โจ้ คิเอลลินี่ , เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ , เอแมร์ซอน ปัลมิเอรี่ , โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ | กองกลาง มาร์โก แวร์รัตติ , จอร์จินโญ่ , นิโคโล่ บาเรลล่า | กองหน้า ชิโร่ อิมโมบิเล่ , ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ , เฟเดริโก้ เคียซ่า)
ด้วยขุมกำลังที่มีความสามารถเฉพาะตัวที่สูง แต่ก็ไม่ได้สูญเสียความเป็นอิตาลีที่เล่นเกมรับได้แข็งแกร่ง เรียกได้ว่าหาจุดอ่อนยากและไร้พ่ายติดกันมา 33 เกมแล้ว อิตาลีจะยังสถิติไร้พ่ายอย่างนี้และคว้าแชมป์ปีนี้ได้ไหม และที่สำคัญคืออิตาลีชุดนี้เล่นเป็นทีมสามารถ สอดแทรกขึ้นมาทำประตูได้ตลอดเวลา
เส้นทางทีมชาติอิตาลีในฟุตบอลยูโร 2020 นี้
รอบคัดเลือก อิตาลี อยู่ในกลุ่ม A ชนะตุรกี 0-3 ชนะสวิตเซอร์แลนด์ 3-0 ชนะเวลส์ 1-0 เข้าเป็นที่ 1 ของสายมี 9 แต้มได้เจ็ดม่เสียประตูเลย
รอบ 16 ทีมอิตาลี เอาชนะทีม ออสเตรีย 2-1 | รอบ 8 ทีมเอาชนะ เบลเยี่ยม 1-2 | รอบรองชนะเลิศชนะ สเปน เสมอในเวลา 1-1 ต่อเวลาถึงยิงจุดโทษชนะไป 4-2
เท่ากับว่าอิตาลียิงไปแล้ว 1ุ6 ตูเสียไป 5 ประตูรวมจุดโทษ
ชิโร่ อิมโมบิเล่ +2 ประตู | ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ +2 ประตู | มัตเตโอ เปสซิน่า +2 ประตู | มานูเอล โรคาเตลรี่ +2 ประตู | เฟเดริโก้ เคียซ่า +2 ประตู
มาดูสถิติการพบกันของทั้งสองทีม เคยพบกัน 4 ครั้งในรายการเมเจอร์ใหญ่ของโลก
- อังกฤษ แพ้ อิตาลี 0-1 ในรอบแบ่งกลุ่ม ยูโร 1980
- อังกฤษ แพ้ อิตาลี 1-2 ในนัดชิงอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 1990
- อังกฤษ แพ้จุดโทษ อิตาลี ในรอบ 8 ทีมใน ยูโร 2012
- อังกฤษ แพ้ อิตาลี 1-2 ในรอบแบ่งกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2014
แต่นับรวมในทุกรายการที่ทั้งคู่เคยพบกันทีมชาติ อิตาลี ทำผลงานได้ดีกว่าทีมชาติ อังกฤษ ดวลแข้งกันมาทั้งหมด 27 ครั้ง อิตาลี เอาชนะไป 11 ครั้ง อังกฤษ ชนะไป 8 ครั้ง และ เสมอกันไป 8 ครั้ง
และในการเจอกัน 10 ครั้งหลังสุด เป็นทาง อังกฤษ ที่พ่ายต่อ อิตาลี ไปมากถึง 5 เกม และชนะได้เพียง 2 เกมเท่านั้น
แต่สำหรับบริษัทรับแทงถูกกฏหมายในต่างประเทศและกูรูหลายคน ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอังกฤษนี่มาแรงจะสามารถคว้าแชมป์ในดินแดนบ้านเกิดที่สนามเวมบลีส์ เหนืออิตาลีได้แน่แต่คงไม่ชนะเวลา 90 นาทีแน่นอน แต่ทุกสำนักก็บอกตรงกันว่าหากยิงจุดโทษ อิตาลีจะคว้าชัยเหนืออังกฤษแน่นอนสกอร์น่าจะเสมอในเวลา 1-1