ไฮไลท์บอลยูโร 2020 หลังเกมในนัดแรก "รอบแบ่งกลุ่ม" ทั้ง 12 คู่จาก 6 กลุ่ม
คู่แรก (ตุรกี 0 - 3 อิตาลี) แข่งกันไปเมื่อวันที่ 12 ที่สนาม สตาดิโอ โอลิมปิโก้ ผลการแข่งเกมนี้อิตาลียังโชวฟอร์มเทพไล่ถลุงตุรกีไปแบบยับเยิน และเก็บคลีนซีด 9 เกมทำสถิติไร้พ่ายติดกัน 28 นัดแล้ว เกมนี้เป็นฝันร้ายของกองหลังตุรกีที่โดนบดในครึ่งจนทานไม่ไหวในครึ่งหลัง เมริห์ เดมิรอล ทำเข้าประตูตังเองในลูกแลกและโดนเพิ่มอีก 2 ประตู แถมท้ายเกมกองหลังมาโดนใบเหลืออีกสองใบทำให้เกมนัดหน้าที่ ตุรกี จะพบกับ เวลส์ นั้นเล่นยากขึ้นไปอีก ส่วน อิตาลี ที่จะพบกับ สวิตเซอร์แลนด์ นั้นไม่ค่อยน่าเป็นห่วงฟอร์มแบบนี้ น่าจะทำสถิติไร้พ่ายต่อไปได้สบาย
สปอร์ตบุ๊คออนไลน์สำหรับฟุตบอลยูโร2020
คู่สอง (เวลส์ 1-1 สวิตเซอร์แลนด์) แข่งกันไปเมื่อวันที่ 12 ที่สนาม บาคู โอลิมปิก สเตเดี้ยม คู่นี้ครึ่งแรก สวิตฯ นั้นกดเวลส์ใว้ได้อยู่หมัดแต่นาทีที่ 15 ก็เกือบเสียประตูจากการยิงครั้งแรกของเวลส์ แต่ถูปฏิเสธโดย ยาน ซอมเมอร์ ผู้รักษาประตูสวิต และทั้งสองทีมยังคงรักษาสกอร์นี้จนจบครึ่งแรก เริ่มครึ่งหลังเปิดแลกเกมกันมากขึ้นบุกเข้าใส่กันเต็มที่ นาทีที่ 49 เป็นชาคิรี่ เปิดแตะมุมจากฝั่งขวาให้ เอ็มโบโร่ โขกเข้าประตูเต็มๆ เวลส์ก็เล่นเกมเร็วสวนกลับหวังจะเอาคืนแล้วก็มาได้ประตูตีเสมอในนาทีที่ 74 จากโจ มอร์เรลล์ เปิดลูกเซตพีช มาให้ เจฟเฟอร์ มัวร์ไขกตุงตาข่าย จบเกมเสมอกันไป นัดหน้าถ้าเวลส์เล่นเกมเร็วได้แบบครึ่งหลังนี้สูกับตุรกีสบาย แต่สวิตถ้ายังเป็นฟอร์มนี้อยู่หวานหมูอิตาลีแน่นอน
คู่สาม (เดนมาร์ก 0-1 ฟินแลนด์) แข่งกันไปเมื่อวันที่ 12 ที่สนาม ปาเค่น เกมเริ่มต้นดำเนินไปปกติเพียงแค่นาทีที่ 4 โรบิน ร็อด ก็โดนใบเหลืองหลังจากนั้นทั้งสองทีมสูกันได้อย่างสูสี จนนัดนี้เกือบมีดราม่าจากที่คริสเตียน อิริคเซ่น กองหลังวูบหมดสติไปในนาทีที่ 43 ต้องทำ CPR ในสนามจนเขาฟื้นกลับมาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่เกมฟุตบอลก็ยังคงดำเนินไปครึ่งหลังดูเหมือนกำลังใจเพื่อนร่วมทีม เดนมาร์ก ยังดีอยู่ แล้วฟินแลนด์ก็ขึ้นนำจาก ยูโรแนน รับบอลทะลักจากเขตโทษ เปิดจากฝั่งซ้ายเข้าไปเป็น โปยาน ปาโล พุ่งโหม่งเข้าประตูไป เดนมาร์กเริ่มเร่งเกมเพื่อเอาคืนและมาได้จุดโทษนาทีที่ 74 แต่ ฮอลย์เบิร์ก พลาดเลยทำให้เดนมาร์กพ่ายฟินแลนด์ไป ดูแล้วเกมหน้า อิริคเซ่น คงไม่ได้ลงแน่นอนคฃเป็น มาธิอัส เยนเซ่นมาญืนแทน นัดที่จะพบเบลล์เยี่ยม เป็นงานหนักแน่นอน ส่วน ฟินแลนด์ ที่จะไปพบกับ รัสเซีย กับฟอร์มนี้สู้ได้สบาย
คู่สี่ (เบลเยี่ยม 3-0 รัสเซีย) แข่งกันไปเมื่อวันที่ 13 ที่สนาม คราสตอฟสกี้ สเตเดี้ยม คู่นี้ต้องบอกเลยว่าสมราคาเบลเยี่ยมกับสามประตู และกองหลังที่ยังคงเหนียวแน่น รูปเกมรัสเซียไม่ได้เป็นรองเท่าไหร่เลยแต่ความคมของ ลูกากู ที่ซัดประตูตั้งแต่นาทีที่ 10 และมายิงปิดท้ายใน นาทีที่ 88 นั้นคมกว่าจริงๆ และตอมาส มูนิเยร์ ที่ลงมาแทน กาสตาญ ตั้งแต่นาทีที่ 27 ก็เข้าขากับลูกากูได้ดี และยิงได้ในนาทีที่ 34 อีกด้วย ส่วนรัสเซียนัดนี้เล่นได้ดีแต่จบสกอร์ไม่ได้มีโอกาสในหลายครั้งกังวลว่านัดหน้าที่เจอฟินแลนด์ เหนื่อยแน่ ส่วน เบลเยี่ยม นัดพบกับ เดนมาร์ก ดูแล้วลอยลำ
คู่ห้า (อังกฤษ 1-0 โครเอเชีย) แข่งกันไปเมื่อวันที่ 13 ที่สนาม เวมบลี่ย์ สเตเดี้ยม คู่นี้เปิดแรกกันสนุกตั้งแต่ต้นเกมเข้าบอลหนักด้วยทั้งคู่ มีโอกาสยิงพอกันแต่เป็นอังกฤษที่คมกว่า จากเควิน ฟิลิปส์ ที่เปิดบอลเข้าเขตโทษให้ ราฮีม เสตอร์ริง ทำประตูแรกของเขาในรายการเมเจอร์นี้ได้ ในนาทีที่ 57 เกมหนักแบบนี้ทำให้ได้ใยเหลืองกันไปคนละสองใบทั้งทีม อังกฤษ นัดหน้าพบกับ สก็อตแลนด์ เหมือนบ้านพี่เมืองน้องรู้ทางบอลกันดีแต่ก็ยังดูเหนือกว่ากับความสดของเด็กรุ่นใหม่ จะมีก็แต่ ดีน เฮนเดอร์สัน ที่ประกาศถอนตัวเพราะบาดเจ็บสะโพกในช่วงซ้อม ส่วน โครเอเชีย พบกับ เช็ก น่าจะเป็นงานยากพอสมควรกับฟอร์มของเช็กในตอนนี้
คู่หก (ออสเตรีย 3-1 มาเซโดเนียเหนือ) แข่งกันไปเมื่อวันที่ 13 ที่สนาม เนชั่นเนล อารีน่า เกมนัดนี้ออสเตรียได้ประตูขึ้นนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 18 จาก ไลเนอร์ กระโดดยิงเสียบมุมแคบไป แต่อีก 10 นาทีต่อมา มาเซโดเนีย เหนือ ก็ยิงตีเสมอได้จาก ความผิดพลาดของผู้รักษาประตูที่ออกมาตัดลูกชนกับกองหลังลูกทะลักมาเข้าเท้า โกรัน ปานเดฟ ซัดเข้าไปตุงตาข่ายจบครึ่งแรกที่สกอร์นี้ ครึ่งหลังออสเตรียเร่งเครื่อง มาได้เพิ่มสองประตูจบเกมชนะไป ออสเตรีย นักหน้าพบกับ เนเธอร์แลนด์ ฟอร์มน่าจะยังสู้ไม่ไหว ส่วน มาเซโดเนีย เหนือ ยูเครน ดูแล้วก็คงสู้ไม่ได้แต่พวกเขาก็แสดงให้เห็นแล้วว่าประมาทเขาไม่ได้เช่นกัน
คู่เจ็ด (เนเธอร์แลนด์ 3-2 ยูเครน) แข่งกันไปเมื่อวันที่ 14 ที่สนาม อาร์มสเตอร์ดัม อารีน่า นี่เป็นคู่ที่ยิงกันมาที่สุดในนัดแรกอบแบ่งกลุ่มถึง 5 ประตู ดูแล้วสองทีมนี้ฟรอ์มดีด้วยกันทั้งคู่ บุกเร็ว ทำเร็ว ครองบอลดี เพียงแต่เกมนี้เนเธอร์แลนด์นั้น คมกว่า ยูเครนเพียงแค่นั้น ครึ่งแรกดูจะอึมครึมนิดหน่อยแต่พอเข้าครึ่งหลังเกมเปิด ประตูแรกก็เกิดขึ้น 52 และตามติดมานาทีที่ 58 ยูเครนเองก็เร่งเครื่องมาตีเสมอได้แต่ก่อนหมดเวลาเพียง 5 นาที เดนเซล ดรัมฟรีซ์ ก็เป็นอัศวินสีส้มยิงประตูชัยชนะไป ทั้งสองทีมในเกมหน้ากับฟอร์มการเล่นแบบนี้ผ่านฉลุยแน่นอน แต่เนเธอร์แลนด์จะหนักกว่าหน่อย เพราะต้องไปเจอกับออสเตรีย
คู่แปด (สก็อตแลนด์ 0-2 สาธารณรัฐเช็ก) แข่งกันไปเมื่อวันที่ 14 ที่สนาม แฮมป์เดน พาร์ค เช็กนั้นเหนือกว่าทั้งขุมกำลังและรูปแบบการเล่น แต่สก็อตแลนด์ก็สู้ได้สูสีทีเดียวแต่ทุกการยิงเข้ากรอบถูปฏิเสธโดย โทมัส วาซลิค ผู้รักษาประตูเช็ก เมื่อทำไม่ได้ก็ต้องโดนลงโทษก่อนจบครึ่งแรก ปาทริค ชิค เบิกประตูขึ้นนำให้เช็กก่อน เข้าครึ่งหลังได้เพียง 7 นาที ชิค ก็บวกเพิ่มให้เช็กอีกประตูจบเกมชนะไป นัดหน้าพบโครเอเชีย เช็ก ไม่น่ามีปัญหา แต่สก็อตแลนด์ พบกับอังกฤษนี่เหนื่อยหน่อยถ้าฟอร์มยังเป้นแบบนี้
คู๋เก้า (โปแลนด์ 1-2 สโลวเกีย) แข่งกันไปเมื่อวันที่ 14 ที่สนาม คราสตอฟสกี้ สเตเดี้ยม โปแลนด์ลงเล่นนัดแรกแต่ผลงานไม่ดี โดนสโลวาเกียลูบคมไปแถมนาทีที่ 62 กองกลางตัวเก่ง เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวี๊ยค ก็มาโดนเหลือที่สองเป็นใบแดง ทำให้ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน มาโดนสโลวเกียยิงนำนาทีที่ 69 จบเกมโปแลนด์พ่ายไป ทำให้นัดหน้าความกดดันที่ต้องไปเจอกับ สเปน เป็นงานยาดขึ้นมาทันทีขาดตัวหลักที่โดนใบแดงแถมยังไม่มีแต้มอีกด้วย ส่วน สโลวาเกีย ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มและนัดหน้าเตรียมพบกับ สวีเดน เล่นสบายๆ
คู่สิบ (สเปน 0-0 สวีเดน) แข่งกันไปเมื่อวันที่ 15 ที่สนาม ลาการ์ตูฆาเดเซบิยา เป็นการเล่นกันกันที่เรียกได้ว่าแทบจะพับสนามบุก แต่สวีเดนก็มีสวนกลับบ้างเป็นระยะ ต้องบอกเลยว่าสเปนยิงทิ้งยิงขว้างไปเยอะมาก 17 ลูก ยิงตรงกรอบแค่ 5 ลูกแต่ถูก โรบิน โอลเซ่น ผู้รักษาสวีเดน ปฏิเสธทั้ง 5 ลูก จบเกมเสมอกันไป นัดหน้าสเปน ต้องการชัยชนะไม่ต่างจาก โปแลนด์สนุกแน่ ส่วนสวีเดนถ้าฟอร์มแบบนี้เจอ สโลวเกียเหนื่อยแน่นนอน
คู่สิบเอ็ด (ฮังการี 0-3 โปรตุเกส) แข่งกันไปเมื่อวันที่ 15 ที่สนาม ปุชกาชออเรนอ โปรตุเกสทำได้ขึ้นจ่าฝูงเก็บ 3 แต้มได้ตามเป้า แม้ต้องลุ้นเหนื่อยจนถึงช่วงท้ายเกม ก่อนมารัวยิง 3 เม็ด ในช่วง 10 นาทีสุด สูกันสูสีแบบสุดมันทั้งเกมแต่ฮังการีก็มารั่วท้ายเกม โดยเกมนี้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เหมาคนเดียวสองประตูพร้อมทำสถิติยิงมากสุดในรายการนี้ และยังทำสถิติในนามทีมชาติต่อไปเมื่อยิงไปถึง 106 ประในการเล่นให้ทัพฝอยทองเข้าไปแล้ว กรุ๊ปออฟเดดนี้นัดหน้า โปรตุเกส พบ เยอรมัน ที่เพิ่งแพ้มาต้องการชัยชนะอย่างมาก ส่วน ฮังการี พบ ฝรั่งเศษ เหนื่อยแน่นอนกับฟอร์มของทีมตราไก่ในตอน เล่นได้สมราคาตัวเต็ง
คู่สิบสอง (ฝรั่งเศษ 1-0 เยอรมัน) แข่งกันไปเมื่อวันที่ 15 ที่สนาม อลิอันส์ อารีน่า เกมนี้ฝรั่งเศษได้ครองบอลน้อยกว่าเยอรมัน โดนบุกเข้าทำจากเยอรมันเกือบไปหลายครั้ง แต่ตราไก่ก็เอาตัวรอดมาได้กองหลังที่เหนียวแน่นและผู้รักษาประตูเหนียวหนึบ ส่วนเยอรมันก็บุกได้ดีเล่นกันได้สูสีมาก และก็เป็นฝันร้ายของ มัทช์ มุลเลอร์ ที่สกัดเข้าประตูตัวเองในนาทีที่ 20 ทำให้ฝรั่งเศษขึ้นนำจนจบเกม เก็บสามแต้มในนัดแรกไปได้นัดหน้าไปพบกับ ฮังการี สามแต้มที่อยู่ในมือเล่นสบาย ความกดดันมาตกอยู่ที่ เยอรมัน ที่ต้องเอาชนะ โปรตุเกส ที่ฟอร์มของโรนัลโด้ตอนนี้สุดจัดปลัดบอกเหนื่อยแน่นอนงานนี้