ทีมไหนจะผ่านเข้าชิงชนะเลิศในปีนี้ อ่านบทวิเคราะห์ก่อนเกมบอลยูโร 2020 รอบรองชนะเลิศก่อนใคร
คู่แรก อิตาลี พบ สเปน ในวันที่ 7 มิถุนายน 2020 เวลา 02:00 น. เวลาไทยที่ สนามเวมบลีย์, กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ถ่ายทอดสด : ช่อง NBT 2HD (หมายเลข 2)
อิตาลี กับขุมกำลังที่คุณทีมโดยกุนซือ โรแบร์โต้ มันชินี่ ที่พาอิตาลีชุดนี้เป็นทีมไร้พ่าย 32 นัดแล้ว ขุมกำลังสำคัญมี ผู้รักษาประตู จันลุยจิ ดอนนารุมมา นี่คือประตูมือกาวคนหนึ่งในรายการนี้เลย เขาเซฟรูปสำคัญสำคัญช่วยอิตาลีผ่านเข้ารอบมาได้ กองหลังคู่เซ็นเตอร์ เลโอนาร์โด โบนุชชี กับ จอร์โจ คิเอลลินี แต่เกมนี้จะต้องขาด"เลโอนาร์โด สปินาซโซลา" แบ็ตซ้ายเจ็บเอ็นร้อยหวายจากนัดก่อน ต้องพักยาวหลายเดือน คาดคนที่จะได้ลงแทนน่าจะเป็น เอเมอร์สัน พัลมิเอรี และ โจวานนี้ ดี รอเลนโซ่ แบ็คขวา กองกลาง มาร์โก้ แวร์รัตติ , จอร์จิญโญ่ , นิโกโล มาเรลลา ที่เชื่อบอลและตัดเกมในแดนกลาง
แนวรุก ดูแล้วคงจะหนีไม่พ้น ลอเรนโซ อินซินเย, ชิโร อิมโมบิเล, เฟเดริโก เคียซา สามประสานแดนหน้าในเกมที่พบกับเบลเยี่ยมโดยเฉพาะ ศูนย์หน้าวัย 21 ปี ที่ยูเวนตุสยืมตัวมา เฟเดริโก เคียซา แต่ในฟุตบอลยูโรกลับเป็นที่น่าจับตามองสำหรับศูนย์หน้าฝั่งซ้ายรายนี้ ทำให้อิตาลีเป็นทีมที่เล่นด้วยยากที่สุดทีมหนึ่งเลย ต้องบอกว่า มันชินี่ ได้เพิ่มเขี้ยวเล็บให้อิตาลีเต็มรุปแบบนอกจากเกมรับที่แข็งแกร่งแล้ว ยังเสริมเกมรุกจากทุกทิศทาง สามประสานในแดนหน้า การเติมของวิงแบ็คทั้งสองฝั่งที่เร็วเป็นจรวด สามประสานแดนกลางที่ได้ทั้งตัดเกม จ่ายบอลได้ทั้งสันทั้งยาว และยังคอยเก็บบอลยิงขู่ใในแถวสองได้ตลอด
เว็บสปอร์ตบุ๊คพนันบอลยูโรที่ดีที่สุด
ดาวซัลโวประจำทีม : ชิโร่ อิมโมบิเล่, ลอเรนโซ่ อินซินเย่, มานูเอล โลคาเตลลี่ และ มัตเตโอ เปสซิน่า 2 ประตู
สเปน กับขุมกำลังที่คุมทีมโดย หลุยส์ เอ็นริเก ที่แม้ลูกทีมจะเข้ารอบแต่ก็มาแบบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เล่นแผนเกียวกับอิตาลี ผู้รักษาประตู อุไน ซิมม่อน ถือว่าเหนียวอยู่เหมือนกัน แต่กองหลังนั้นฟอร์มไม่คอยจะคงที่ เปา ตอร์เรส , เอริค กาซีอาร์ , เซซาร์ อัสปิลิกวยต้า , จอร์ดี้ อัลบาร์ ทั้ง 4 คนเ่นได้ดีในรอบแบ่งกลุ่ม แค่รอบ 16 ทีมเห็นได้ชัดที่โดนโครเอเชียกดดัน และรอบ 8 ทีมที่โดนสวิตตีเสมอ แดนกลางมี บุตเก็ตซ์ , โกเก้ , เปดรี ที่เก็บบอลได้ดีและพลิกเกมได้ตลอดเวลาพร้อมที่จะรับหรือรุกก็ได้ สามประสานแดนหน้าเล่นดีแต่ฟอร์มยังผีเข้าผีออก เฟร์รัน ตอร์เรส ,อัลบาโร โมราตา,ดานี่ โอลโม่ แต่ก็ถือว่าผ่านมาได้ ตามแผนของเอ็นริเก้คือให้ลูกทีมเล่นบอลกับพื้นเจาะตามช่อง นี่คือทีมที่ครองบอลมากที่สุดในยูโรปีนี้คือรวมทุกเกมเทียบทุกทีม เฉลี่ยแล้ว อยู่ที่ 67.2 เปอร์เซ็นต์ซึ่งถือว่ามากพอสมควร และมันก็ได้ผลจนผ่านมาถึงรอบรองในตอนนี้ด้วย สเปนเองก็หวังจะคว้าแชมป์ที่สองหลังจากที่พวกเขาทำสำเร็จแล้วในปี 2012
ดาวซัลโวประจำทีม : อัลบาโร่ โมราต้า, ปาโบล ซาราเบีย และ เฟร์ราน ตอร์เรส 2 ประตู
สกอร์ที่คาด : อิตาลี ชนะ สเปน 2-0 เกมนี้หลายสำนักให้อิตาลี เหนือ สเปนอยู่นิดหน่อย
คู่สอง อังกฤษ พบ เดนมาร์ก ในวันที่ 8 มิถุนายน 2020 เวลา 02:00 น. เวลาไทยที่ สนามเวมบลีย์, กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ถ่ายทอดสด : ช่อง NBT 2HD (หมายเลข 2)
อังกฤษ กุมบังเหียนโดย แกเร็ท เซาท์เกต นี่คือการรอคบที่ยาวนานตั้งแต่ปี 1996 ที่เขาพลาดจุดโทษในฐานะนักแตะ นี่ก็กว่า 25 ปีแล้ว เขาทำทีมนี้ด้วยการไม่เรียกดาวเด่นมาติดทีมเลย แต่เลือกที่จะถ่ายเลือดสิงโตคำรามเอาเด็กใหม่มาเล่นผสมกับตัวเก๋าหลายตัว สิ่งที่นน่าสนใจในความสำเร็จของอังกฤษคือ นักเตะแต่ละคนก็ล้วนเป็นนักเตะแนวหน้าของวงการฟุตบอลทั้งสิ้น และการมีนักเตะให้เลือกใช้งานไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรมาก สามารถทดแทนกันได้ในทุกตำแหน่ง ทั้งผู้รักษาประตู จอร์แดน พิกฟอร์ด มาพร้อมกับแผน 4-5-1
กองหลัง วอล์คเกอร์ , จอร์น สโตนส์ , แฮร์รี แมไกวร์ , ลุค ชอว์ ใช้กลางคุฒเกมถึง 5 คน ดีคลัน ไรซ์ , แคลวิน ฟิลลิปส์ , จาดอน ซานโช่ , เมสัน เมาส์,ราฮีม สเตอร์ลิง และมีศูนย์หน้าตัวเป้าอย่าง แฮรี่ เคน สิ่งนี้อาจะทำให้อังกฤษนั้นมองไปถึงการเป็นแชมป์บอลยูโรและฟุตบอลโลกได้ในระยะยาว เพราะนักแตะทุกคนอยู่ในช่วงอายุเลข 2 รับรองว่าไปได้อีกไกล แต่นัดนี้อาจะได้สับเปลี่ยนนักเตะในบางตำแหน่ง จาดอน ซานโช่ หรือ บูคาโย่ ซาก้า แผงหลังที่อาจจะได้ลงบู๊ศึกนี้กับเดนมาร์ด้วย
ดาวซัลโวประจำทีม : แฮร์รี่ เคน และ ราฮีม สเตอร์ลิง 3 ประตู
เดนมาร์ก ชุดนี้มี แคสเปอร์ ยุลมันน์ คุมทีมฝ่าด่านเข้ารอบมาได้ที่แม้ว่าจะเปิดตัวไม่ได้สวยงาม แถมยังสูญเสียนักเตะสำคัญของทีมตั้งแต่นัดแรกที่เกิดอาการบาดเจ็บอย่าง คริสเตียน อีริคเซน ทำให้ทีมแพ้ไปในเกมแรกแต่หลังจากนั้นก็เหมือนนักแตะแดนโคนมตื่นจากหลับไหลในเกมที่สองและที่สาม จนสามารถผ่านทีมที่แข็งแกร่งมาได้จนถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย หลายคนกล่าวว่าเข้ามาถึงรอบ 4 ทีมหรือนี้จะเป็นเหมือนฝันเทพนิยายเดนส์ ที่ ผู้รักษาประตู แคสเปอร์ ชไมเคิล ทำได้อย่างพ่อของเขาสุดยอดประตูที่ดีสุดในโลกตลอกาล ปีเตอร์ ชไมเคิล กับแชมป์ในปี 1992 ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ต่างกกันทั้งทีมที่เล่นด้วยหัวใจ กองหลังที่เหนีวยแน่น เวสเตอร์การ์ด , คริสเตนเซ่น , ไซม่อน เคียร์ กองกลาง สไตรเกอร์ ลาร์เซ่น , เดลานีย์ , ฮอยเบิร์ก , เมห์เล สามประสานในแดนหน้า มิคเกล ดามส์การ์ด , แคสเปอร์ ตอลแปร์ , มาร์ติน เบรธเวต จะเห็นได้ว่าหากเทียบชื่อชั้นและขุมกำลังดูยังไงอังกฤษก็เหนือกว่า แต่มาถึงตอนนี้คงไม่มีใครคิดอย่างนั้นแล้ว เพราะเดนมาร์กที่มีจุดเด่นด้านของทีมเวิร์คการสอดประสานของนักเตะในทุกตำแหน่ง ขึ้นลงได้ไวสามารถปรับจากรับเป็นรุกได้เร็วและวิ่งไม่มีหมด
ดาวซัลโวประจำทีม : แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก 3 ประตู
สกอร์ที่คาด : เกมนี้ไม่จบใน 90 นาทีแน่ในเวลาน่าจะเสมอกัน 0-0 หรือ 1-1 ช่วงต่อเวลายกให้อังกฤษเนือกว่า 2-1 แต่หากยื้อได้จนลูกโทษ เดนมาร์ก คงได้เข้ารอบ