
การเดิมพันกีฬาเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศไทย แม้ว่าการเดิมพันกีฬาส่วนใหญ่จะยังไม่ถูกกฎหมาย แต่ก็มีผู้เล่นจำนวนมากที่ใช้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์จากต่างประเทศ บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับโครงสร้างภาษีของการเดิมพันกีฬาในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย
ภาษีการเดิมพันกีฬาในประเทศไทย
- การเดิมพันกีฬาถูกกฎหมาย (สนามม้าและสลากกินแบ่งรัฐบาล)
- สลากกินแบ่งรัฐบาล: รางวัลที่ถูกรางวัลจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตรา 0.5% ของมูลค่ารางวัล
- การเดิมพันม้าแข่ง: ผู้จัดงานต้องเสียภาษี 2% ของยอดเดิมพันรวม แต่ผู้เล่นไม่ต้องเสียภาษีโดยตรง
- การเดิมพันกีฬาออนไลน์ (แพลตฟอร์มต่างประเทศ)
- ไม่มีโครงสร้างภาษีอย่างเป็นทางการ: เนื่องจากยังไม่ถูกกฎหมายในประเทศไทย จึงไม่มีการจัดเก็บภาษีโดยตรงจากผู้เล่น
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา: หากมีการถูกรางวัลใหญ่ ๆ รายได้อาจถูกพิจารณาให้เป็นรายได้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้ แต่การบังคับใช้กฎหมายนี้ยังคงไม่ชัดเจน
- การดำเนินธุรกิจพนันกีฬาอย่างผิดกฎหมาย
- ผู้ประกอบการที่จัดการเดิมพันโดยไม่ได้รับอนุญาตอาจเผชิญกับโทษทางกฎหมายที่รุนแรง รวมถึงการจำคุกและค่าปรับสูง
แนวโน้มการจัดเก็บภาษีในอนาคตของประเทศไทย
รัฐบาลไทยกำลังพิจารณาแนวทางในการ ทำให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย เพื่อนำรายได้ภาษีเข้ารัฐ ซึ่งหากเป็นจริง เราอาจเห็น
- การเก็บภาษีจาก ผู้ประกอบการ และ ผู้เล่น
- การจัดเก็บภาษีในรูปแบบคล้ายกับประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย เช่น สิงคโปร์หรือฟิลิปปินส์
ภาษีการเดิมพันกีฬาในประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย
- สิงคโปร์
- การพนันถูกกฎหมายและควบคุมอย่างเข้มงวด
- ภาษีที่เรียกว่า "Duties on Betting" โดยคิดภาษีจากรายได้รวมของผู้ประกอบการ 15% - 25%
- ฟิลิปปินส์
- อนุญาตให้มีการเดิมพันกีฬาออนไลน์อย่างถูกกฎหมายผ่าน PAGCOR
- ผู้ประกอบการต้องเสียภาษีประมาณ 5% ของรายได้รวม และภาษีเพิ่มเติมสำหรับผู้เล่นในบางกรณี
- มาเก๊า
- ภาษีการพนันสูงถึง 35% ของรายได้รวม สำหรับคาสิโนและการเดิมพันกีฬา
- มาเลเซีย
- อนุญาตการเดิมพันกีฬาอย่างจำกัด โดยมีการเก็บภาษีจากรายได้ของผู้ประกอบการในอัตราที่สูง
การสำรวจตลาดการเดิมพันกีฬาออนไลน์ในเอเชีย

จากการสำรวจตลาดการเดิมพันกีฬาออนไลน์ในภูมิภาคเอเชีย พบว่า มูลค่าตลาดการเดิมพันกีฬาออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด เช่น สิงคโปร์และฟิลิปปินส์ ซึ่งสร้างรายได้ภาษีจำนวนมหาศาลให้กับรัฐบาล
- อัตราการเติบโต: ตลาดการเดิมพันกีฬาออนไลน์ในเอเชียคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 7-10% ต่อปี โดยได้รับแรงผลักดันจากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วและการใช้สมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น
- ประเภทกีฬายอดนิยม: ฟุตบอล ยังคงเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมสูงสุด ตามมาด้วย บาสเกตบอล และ อีสปอร์ต
- พฤติกรรมผู้เล่น: ผู้เล่นส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 25-40 ปี และนิยมเดิมพันผ่านแอปพลิเคชันมือถือมากกว่าเว็บไซต์
ทิศทางเกี่ยวกับภาษีการเดิมพันกีฬาในเอเชีย
ในปีที่ผ่านมา หลายประเทศในเอเชียได้ประกาศแผนการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการเดิมพันกีฬา:
- เวียดนาม: กำลังพิจารณาให้การเดิมพันกีฬาออนไลน์ถูกกฎหมายเต็มรูปแบบ เพื่อเพิ่มรายได้ภาษี
- อินโดนีเซีย: แม้ว่าการพนันจะยังคงเป็นสิ่งต้องห้าม แต่รัฐบาลกำลังศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจหากมีการทำให้ถูกกฎหมาย
- ไทย: รัฐบาลไทยเริ่มมีการหารือเชิงลึกเกี่ยวกับการเปิดเสรีการเดิมพันกีฬาออนไลน์ โดยคาดว่าอาจมีการประกาศแนวทางใหม่ในปีถัดไป
สรุปภาษีการเดิมพันกีฬา
แม้ว่าประเทศไทยยังไม่มีระบบภาษีที่ชัดเจนสำหรับการเดิมพันกีฬาออนไลน์ แต่หลายประเทศในเอเชียได้กำหนดโครงสร้างภาษีที่เข้มงวดเพื่อสร้างรายได้ให้กับรัฐ การปรับเปลี่ยนกฎหมายในอนาคตอาจทำให้เกิดระบบการเก็บภาษีใหม่ในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยให้ภาครัฐสามารถควบคุมและเก็บรายได้จากการเดิมพันกีฬาได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ตลาดการเดิมพันกีฬาออนไลน์ในเอเชียยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นและโอกาสในการสร้างรายได้ภาษีที่สำคัญในอนาคต