ตำรวจไซเบอร์ไทยประกาศปิดกั้นเว็บ Polymarket โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ประกาศปิดกั้นแพลตฟอร์มตลาดคาดการณ์เหตุการณ์ระดับโลกอย่างโพลีมาร์เก็ตที่ให้บริการเดิมพัน โดยใช้สกุลเงินดิจิทัลในการวางเดิมพันหวั่นเข้าข่ายการพนันออนไลน์
การปิดกั้น Polymarket.com ได้สะท้อนถึงความตื่นตัวของประเทศไทยต่อภัยคุกคามจากการพนันออนไลน์ โดยมีความซับซ้อนของเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่อาจส่งผลต่อกฎหมายการพนันของไทย โดยมีหลายประเทศที่ประกาศปิดกั้นเว็บนี้ไปแล้ว อาทิเช่น ไต้หวัน ฝรั่งเศส และสิงคโปร์ เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อประชาชนและเสี่ยงต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของไทยในตลาดเงินคริปโตที่มีความผันผวนสูง
ความซับซ้อนของเทคโนโลยี Web 3.0 กับเงินคริปโต
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ ตำรวจไซเปอร์ไทยมีความกังวัลเกี่ยวกับ แพลตฟอร์ม Polymarket นั่นก็คือ Web 3.0 และบล็อกเชน ที่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในวงการการเงินและการเดิมพันออนไลน์ ที่มีวิธีการตรวจสอบค่อนข้างยุ่งยากมากยิ่งขึ้น โดยมีการนำการใช้งานคริปโตเคอร์เรนซีมาใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายอย่าง การพนันออนไลน์
แพลตฟอร์ม Polymarket เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้คาดการณ์เหตุการณ์สำคัญของโลก อย่างเช่น การเลือกตั้งสหรัฐฯ เปิดให้ทายผลโดยใช้เงินดิจิทัลคริปโตในการวางเดิมพัน แสดงให้เห็นว่าการเดิมพันด้วยเงินดิจิทัลสามารถดึงดูดผู้ใช้งานทั่วโลกด้วยปริมาณการซื้อขายแบบมหาศาล ส่งผลให้การกำกับดูแลจะต้องอาศัยทรัพยากรและความรู้เชิงเทคนิคที่สูงจึงจะสามารถควบคุมดูแลได้
สร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ กุญแจสำคัญสู่การแก้ปัญหา
การแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซีนั้นนับว่าไม่สามารถดำเนินการโดยมีเพียงประเทศเดียวได้ ปอท. จึงได้ริเริ่มการประสานงานกับหน่วยงานในประเทศต่างๆ อย่าง สิงคโปร์ ฝรั่งเศส และไต้หวัน ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีเครือข่ายความร่วมมือระดับสากลเพื่อป้องกันกิจกรรมที่ผิดต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคริปโต
ทำการพัฒนาระบบเฝ้าระวังให้สามารถครอบคลุมถึงข้อมูลต่างๆ การสร้างความร่วมมือเหล่านี้นับว่าเป็นสิ่งสำคัญในการลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม รวมไปถึงสามารถนำไปป้องกันการกระทำที่ผิดกฎหมายในโลกดิจิทัลในอนาคตและเพื่อปกป้องประชาชนจากการตกเป็นเหยื่อและลดผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสังคม
ความท้าทายและอนาคตของไทยในยุคคริปโต
ถึงแม้ว่าไทยจะมุ่งเน้นปราบปรามการพนันดิจิทัลอย่างจริงจัง แต่ในขณะเดียวกันนั้นก็ยังเปิดรับนวัตกรรมใหม่ของเงินดิจิทัลด้วยเช่นกัน โดยเริ่มมีการพิจารณาอนุมัติ Bitcoin ETF ให้สามารถใช้ได้อย่างถูกกฎหมาย สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการหาสมดุลระหว่างการส่งเสริมการลงทุนและการป้องกันความเสี่ยงไปด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม การพัฒนากฎระเบียบที่ชัดเจนและเหมาะสมยังคงนั้นเป็นสิ่งสำคัญ พร้อมกับให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการใช้คริปโตเคอร์เรนซีอย่างปลอดภัย การเสริมสร้างความเข้าใจในเทคโนโลยีใหม่นี้นับว่าเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จได้ในระยะยาว
สร้างจุดยืนที่เหมาะสมพร้อมปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล
การปิดกั้น Polymarket เป็นตัวอย่างของความพยายามในการสร้างสมดุลระหว่างการปกป้องประชาชนและการสนับสนุนนวัตกรรมดิจิทัลไปในตัว การปรับตัวให้เท่าทันกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ สามารถทำควบคู่ไปกับการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพได้ มีโอกาสช่วยให้ประเทศไทยก้าวสู่โลกยุคดิจิตอลที่ทันสมัยได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
และในส่วนของความเคลื่อนไหวของไทยในการปิดกั้น Polymarket เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สะท้อนถึงจุดยืนของไทย ถึงแม้ว่าความท้าทายในการพัฒนาประเทศที่เข้าสู่เทคโนโลยีใหม่จะมีความซับซ้อนและยุ่งยาก แต่ถ้าหากไทยเริ่มมีนโยบายที่ชัดเจน พร้อมกับมีการทำงานร่วมกันระหว่างประเทศได้ก็จะสามารถช่วยให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างยั่งยืนในอนาคตอันใกล้นี้ได้อย่างรวดเร็ว