รัฐบาลไทยภายใต้แกนนำของนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร กำลังผลักดันนโยบาย "เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" แนวคิดการเปิดกาสิโนถูกกฎหมายของไทยเป็นครั้งแรก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว โดยคาดการณ์ว่าไทยอาจกลายเป็นศูนย์กลางการพนันอันดับ 3 ของโลก รองจากมาเก๊าและลาสเวกัส โดยมุ่งหมายให้ไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญในอุตสาหกรรมบันเทิงในระดับโลก
แต่อย่างไรก็ตาม มูลนิธิรณรงค์หยุดพนันเผยว่า ร้อยละ 54.7 ของประชาชนยังไม่เห็นด้วยกับการเปิดกาสิโน และมีเสียงวิจารณ์ถึงความไม่โปร่งใสในการดำเนินนโยบายนี้ บางฝ่ายยังมีความเห็นว่าหากรัฐบาลดำเนินการด้วยความรอบคอบได้นั้น อาจช่วยลดปัญหาการพนันผิดกฎหมายได้และดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติได้อย่างมหาศาลได้เช่นกัน
บทวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ป ประเมินว่า ไทยจะกลายเป็นศูนย์ กลางการพนันใหญ่ อันดับ 3 ของโลก รองจากมาเก๊า และลาสเวกัส เนื่องจากมีคนไทยชอบเล่นการพนัน และรัฐบาลกำลังหาทางกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศแม้จะมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวที่ดี
แผนพัฒนาเศรษฐกิจความบันเทิง การเดินเกมครั้งใหญ่ของรัฐบาล
รัฐบาลได้เสนอแผนปฏิรูปเศรษฐกิจด้วยการสร้าง “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ซึ่งเป็นโครงการที่รวมความบันเทิงแบบครบวงจร ตั้งแต่โรงละคร โรงแรมหรู จนถึงการเปิดกาสิโนถูกกฎหมายโครงการนี้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดท่องเที่ยวในระดับโลก
โครงการนี้ตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง การสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จึงเป็นมากกว่าโครงการทางเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นความก้าวหน้าทางวัฒนธรรมและการบริการที่ยกระดับของไทย โดยข้อมูลจาก ททท. ระบุว่า หากโครงการสำเร็จ จะสามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวมากกว่า หลายแสนล้านบาทต่อปี
แรงผลักดันทางเศรษฐกิจ หรือปัญหาสังคมที่ต้องจับตามอง?
ในขณะที่รัฐบาลมั่นใจว่าโครงการนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้ แต่กลุ่มนักวิชาการและภาคประชาสังคมกลับแสดงความกังวลถึงผลกระทบทางสังคมมากกว่า โดยเฉพาะความเสี่ยงที่อาจเกี่ยวข้องกับปัญหาหนี้สินจากการพนัน การพนันในกลุ่มวัยรุ่น และความเหลื่อมล้ำที่อาจเพิ่มสูงขึ้นได้
การเปิดกาสิโนในหลายประเทศ อย่างเช่น มาเก๊า หรือสิงคโปร์ อาจจะสร้างรายได้มหาศาล แต่ก็นำมาซึ่งปัญหาทางสังคมและอาชญากรรมได้ด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์หลายฝ่ายกังวลว่า กาสิโนไทยอาจกลายเป็นแหล่งฟอกเงินที่ยากต่อการควบคุม ความเสี่ยงนี้อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและกฎหมายป้องกันการฟอกเงินของประเทศได้
ช่องโหว่กฎหมาย พ.ร.บ. "เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" ที่น่าเป็นห่วง
มูลนิธิรณรงค์หยุดพนันเปิดเผยช่องโหว่สำคัญในร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร อย่างเช่น การไม่ระบุรายละเอียดการป้องกันการฟอกเงิน การขาดมาตรการปกป้องกลุ่มเปราะบางอย่างเด็กและเยาวชน และการขาดความโปร่งใสในกระบวนการออกใบอนุญาต นักวิชาการตั้งคำถามว่า รัฐบาลจะสามารถสร้างความโปร่งใสในกระบวนการอนุญาตและบริหารจัดการได้หรือไม่
นายธนกร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิฯ ระบุว่า การผลักดันกฎหมายนี้อาจเป็นการซุกแนวคิดการเปิดกาสิโนไว้ในรายละเอียดที่สังคมไม่ทันสังเกตเห็น พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลรับฟังเสียงประชาชนและสร้างความชัดเจนในเจตนารมณ์ของกฎหมายและเพิ่มรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการป้องกันปัญหาอาชญากรรมและการฟอกเงินอย่างจริงจัง
ผลกระทบระดับภูมิภาค หากไทยเปิดกาสิโนใครได้ใครเสีย?
หากไทยเปิดคาสิโนถูกกฎหมาย อาจส่งผลกระทบต่อประเทศเพื่อนบ้านอย่าง กัมพูชาและลาว ที่ต้องปรับตัวจากการสูญเสียลูกค้าชาวไทย ขณะเดียวกันประเทศลาวและเวียดนามอาจเร่งปรับตัวเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน ในขณะที่รัฐบาลไทยตั้งเป้ารายได้จากการพนันสูงถึง 9.1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2031 พร้อมกับเก็บภาษีต่ำสุดในภูมิภาคเพียง 17% เท่านั้น
นักวิเคราะห์เชื่อว่า หากไทยสามารถสร้างระบบที่น่าเชื่อถือได้และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวระดับสูงได้จริง จะเป็นการพลิกเกมเศรษฐกิจของภูมิภาค แต่อย่างไรก็ตาม นักวิชาการเตือนว่าความเสี่ยงทางสังคม เช่น การเสพติดการพนัน และการเพิ่มอำนาจทุนสีเทา อาจทำลายระบบเศรษฐกิจและสังคมไทยในระยะยาวได้
บทความอื่นที่น่าสนใจ
- ครม.อนุมัติร่าง พ.ร.บ.คาสิโน หวังดันเศรษฐกิจท่องเที่ยวไทย
- ความนิยมที่เพิ่มขึ้นในการเล่นเกมคาสิโนสดในประเทศไทย
- การเลือกตั้งกับกฎหมายคาสิโนออนไลน์
- ทำไมผู้เล่นชาวไทยถึงหันมาเล่นเกมคาสิโนสด
- ทักษิณเดินหน้าผลักดัน “พนันออนไลน์-คริปโตถูกกฎหมาย”