เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 คณะรัฐมนตรีไทยมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติศูนย์รวมความบันเทิง Entertainment Complex เพื่อเปิดทางให้การพนันและคาสิโนถูกกฎหมายภายในประเทศ นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ชี้ว่า กฎหมายฉบับนี้จะช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและเพิ่มรายได้รัฐอย่างยั่งยืน โดยคาดว่ากฎหมายจะผ่านการพิจารณาของรัฐสภาภายในกลางปี 2568
นโยบายนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจของรัฐบาล หวังดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศและกระตุ้นการท่องเที่ยว รัฐบาลคาดหวังให้ศูนย์รวมความบันเทิงนี้ช่วยเพิ่มรายได้ทางเศรษฐกิจ ลดปัญหาการพนันใต้ดิน และสร้างงานนับพันตำแหน่ง
เปิดรายละเอียดกฎหมายคาสิโนใหม่ สร้างศูนย์รวมความบันเทิงระดับโลก
ร่างกฎหมายดังกล่าวกำหนดให้คาสิโนเป็นส่วนหนึ่งของรีสอร์ทแบบบูรณาการที่ประกอบด้วยโรงแรม สวนสนุก ร้านอาหาร และสถานที่แสดงความบันเทิง โดยพื้นที่คาสิโนต้องไม่เกิน 5% ของพื้นที่รีสอร์ททั้งหมด ใบอนุญาตดำเนินการมีระยะเวลา 30 ปี พร้อมค่าธรรมเนียมเบื้องต้น 4,900 ล้านบาท และค่าธรรมเนียมรายปี 1,000 ล้านบาท ผู้ประกอบการจะต้องมีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท
รัฐบาลมีแผนออกใบอนุญาต 5 แห่งในพื้นที่ยุทธศาสตร์ ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ และภูเก็ต โดยคาดว่ามีรายได้จากการเก็บภาษีการพนันมากกว่า 17% จะเป็นรายได้สำคัญเข้าสู่คลังในอนาคต
รัฐบาลคาดรายได้จากคาสิโนแตะ 220,000 ล้านบาท พร้อมสร้างงานนับหมื่นตำแหน่ง
การผ่านร่าง พ.ร.บ. นี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย โดยรัฐบาลคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้น 5-10% ต่อปี นำมาซึ่งรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 220,000 ล้านบาท และนอกจากรายได้จากภาษีการพนันที่กำหนดไว้ 17% แล้ว การจัดตั้งคาสิโนยังสร้างงานใหม่ 9,000-15,000 ตำแหน่ง และเพิ่มความน่าสนใจให้กับแหล่งท่องเที่ยวในไทยทำให้สามารถกระตุ้นเศษฐกิจได้ในระยะยาว
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ระบุว่า การจัดตั้งศูนย์รวมความบันเทิงจะเป็นโอกาสสำคัญสำหรับประเทศไทยในการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเช่น สิงคโปร์ กัมพูชา และฟิลิปปินส์ ที่มีรายได้มหาศาลจากคาสิโน
เสียงวิจารณ์กระหึ่ม ความกังวลด้านสังคมและผลกระทบระยะยาว
แม้รัฐบาลจะมองว่ากฎหมายคาสิโนเป็นโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่ฝ่ายค้านและกลุ่มนักวิชาการมีความกังวลถึงผลกระทบด้านสังคม โดยเฉพาะการติดพนันและปัญหาครอบครัว ซึ่งยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการการพนันที่อาจขาดความโปร่งใส และอาจเปิดช่องให้เกิดการฟอกเงินหรือทุจริตเกิดขึ้นได้ง่าย
โดยเสียงที่สนับสนุนจากรัฐบาลและกลุ่มนักลงทุนระบุว่า การเปิดคาสิโนถูกกฎหมายจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในยุคใหม่ แต่ฝ่ายคัดค้านจากนักวิชาการและนักการเมืองฝ่ายค้านกังวลว่าการอนุมัติร่างกฎหมายนี้อาจเพิ่มปัญหาการพนันในสังคม รังสิมันต์ โรม ส.ส.ฝ่ายค้านเตือนว่าการเปิดคาสิโนอาจถูกครอบงำโดยบริษัทข้ามชาติได้
คาสิโนถูกกฎหมาย หนทางแก้ปัญหาพนันเถื่อนหรือเพิ่มภาระสังคม?
แม้รัฐบาลคาดหวังให้คาสิโนถูกกฎหมายสามารถช่วยแก้ปัญหาพนันใต้ดินได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่า การแก้ไขปัญหานี้ควรเน้นการปรับเปลี่ยนทัศนคติและการบริหารจัดการมากกว่าเพียงการสร้างรายได้ นักวิจารณ์ชี้ว่าโครงการนี้อาจเพิ่มความเหลื่อมล้ำในสังคมและเปิดช่องให้เกิดการทุจริตในการออกใบอนุญาต อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่แท้จริงจะขึ้นอยู่กับการกำกับดูแลและการบริหารที่โปร่งใสในอนาคต
อนาคตของคาสิโนในเมืองไทย
การอนุมัติร่าง พ.ร.บ.คาสิโนในครั้งนี้ ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศไทย แต่ผลกระทบที่แท้จริงทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมยังคงต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดในระยะยาว ถึงอย่างไรก็ตาม รัฐบาลยืนยันว่า จะบริหารจัดการอุตสาหกรรมนี้ด้วยความระมัดระวังอย่างสูง เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดต่อสังคม พร้อมมุ่งเน้นให้เกิดความยั่งยืนและสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับการท่องเที่ยวไทยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยให้ยั่งยืนได้ในระยะยาว
