มื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงแนวคิดผลักดันการพนันออนไลน์และคริปโตเคอร์เรนซีให้ถูกกฎหมาย โดยเชื่อมั่นว่านโยบายนี้จะสร้างรายได้แบบมหาศาลให้กับประเทศ พร้อมขจัดปัญหาเศรษฐกิจสีเทาและช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจไทยได้ในระยะยาว
ทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรไว้ว่า การทำให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมายจะช่วยให้รัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีได้ถึงปีละมากกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งจะกลายเป็นรายได้สำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป ทั้งนี้ เขาเปิดเผยว่า ปัจจุบันมีคนไทย ประมาณ 2-4 ล้านคน เล่นพนันออนไลน์ ส่งผลให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบนี้ มีมูลค่าสูงถึง 5 แสนล้านบาทต่อปี
เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสแก้ปัญหาใต้ดิน พร้อมจัดระเบียบธุรกิจการพนันออนไลน์
ทักษิณ ได้เปิดเผยว่า ตลาดการพนันออนไลน์ในประเทศไทยกำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ส่วนใหญ่ดำเนินกิจการในรูปแบบที่ผิดกฎหมาย เขาเสนอให้รัฐบาลเข้ามาควบคุมและการจัดเก็บภาษีจากธุรกิจเหล่านี้ พร้อมกับพัฒนาระบบที่ช่วยป้องกันการเข้าถึงของผู้เยาว์และลดความเสี่ยงต่อสังคมตามมาตราฐานสากล
“การปล่อยให้ตลาดนี้อยู่ใต้ดินเป็นการเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ ประเทศสามารถเก็บภาษีได้มหาศาล ซึ่งจะนำไปใช้พัฒนาประเทศในด้านอื่นๆ ได้” ทักษิณกล่าว
ทักษิณเน้นย้ำว่ารัฐบาลกำลังพัฒนาระบบระบุตัวตนเพื่อควบคุมการเข้าถึงการพนันออนไลน์ เพื่อป้องกันเยาวชนและลดปัญหาการเสพติดการพนันที่มีโอกาสเกิดขึ้นในอนาคต "เราจะใช้ระบบที่คล้ายกับพาสปอร์ตสำหรับผู้ใช้งาน เพื่อสร้างความโปร่งใสและลดความเสี่ยงต่อสังคม"
โดยสร้างระบบจัดเก็บภาษี 20% สำหรับการพนันออนไลน์ ซึ่งหากนำมาดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยลดปัญหาการเล่นพนันผิดกฎหมาย และสร้างกลไกการควบคุมที่ป้องกันผู้เยาว์และผู้ติดการพนันเข้าสู่วงจรนี้ได้
คริปโตเคอร์เรนซี ทิศทางใหม่ของเศรษฐกิจไทย โอกาสใหม่ในการสร้างรายได้
นอกจากการพนันออนไลน์แล้ว นายทักษิณยังชี้ให้เห็นโอกาสของการใช้สกุลเงินดิจิทัล หรือคริปโตเคอร์เรนซี ในการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยเห็นว่าประเทศไทยควรเปิดรับเทคโนโลยีการเงินยุคใหม่ ซึ่งเริ่มต้นจากการทดสอบใช้งานได้เฉพาะในจังหวัดภูเก็ต และค่อยๆ ขยายการยอมรับไปทั่วประเทศ “คริปโตเคอร์เรนซีไม่ใช่เรื่องเสี่ยง แต่เป็นโอกาสใหม่ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ” เขากล่าว
คาสิโนแบบครบวงจร ศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการลงทุน
นอกจากการพนันออนไลน์ รัฐบาลยังเตรียมผลักดันกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวและสร้างงานในท้องถิ่นกว่า 20,000 ตำแหน่ง
“เรามุ่งสร้างโมเดลที่คล้ายกับลาสเวกัส” ทักษิณกล่าว พร้อมระบุว่า คาสิโนจะใช้พื้นที่ไม่เกิน 10% ของโครงการ ซึ่งส่วนที่เหลือจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม สวนสนุก และศูนย์จัดประชุม
ในส่วนของสถานบันเทิงครบวงจร ทักษิณเสนอแนวคิดพัฒนาพื้นที่เฉพาะสำหรับการท่องเที่ยวเชิงบันเทิงที่มีทั้งคาสิโน โรงแรมระดับหรู และแหล่งช้อปปิ้ง โดยย้ำว่าคาสิโนจะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของโครงการ ซึ่งจะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติและสร้างงานในพื้นที่
“นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการพนัน แต่เป็นการสร้างโมเดลเศรษฐกิจใหม่ที่ผสมผสานระหว่างการลงทุนและการท่องเที่ยว” เขากล่าว
เสียงวิจารณ์และแรงต้านในสังคม ความท้าทายของนโยบาย
แม้จะมีการสนับสนุนจากหลายฝ่าย แต่โครงการดังกล่าวก็เผชิญแรงต้านจากนักวิชาการและประชาชนบางส่วน ที่มองว่าการพนันอาจสร้างปัญหาทางสังคมและเศรษฐกิจ เช่น การติดพนันและอาชญากรรมที่อาจเพิ่มขึ้นในชุมชน นอกจากนี้ ยังมีคำถามเกี่ยวกับความโปร่งใสและการกระจายผลประโยชน์จากโครงการนี้
ทักษิณระบุว่ารัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลที่รัดกุม พร้อมทั้งรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อให้มั่นใจว่านโยบายดังกล่าวจะสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศ
“เราต้องกล้าคิดใหม่ เพื่ออนาคตที่มั่นคงของเศรษฐกิจไทย” อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวปิดท้าย
เป็นอีกหนึ่งในข้อเสนอที่มีศักยภาพสามารถพลิกโฉมประเทศไทยได้ แต่อยู่ที่ว่า การบริหารการจัดการของรัฐบาลจะสามารถตอบคำถามของประชาชนได้อย่างโปร่งใสได้หรือไม่ในอนาคตอันใกล้นี้